...

สลายฝ้าจะหายถาวรไหม?

     คำตอบคือ การรักษาฝ้าเป็นการรักษาที่ไม่หายถาวร แต่จะทำให้การทำงานของเม็ดสีหยุดทำงานชั่วคราว และบริเวณที่เป็นฝ้าก็จะจางลงจนมองไม่ค่อยเห็นการรักษาฝ้าต้องอาศัยความต่อเนื่องในการรักษาด้วย ถ้าผลเป็นที่หน้าพอใจสามารถหยุดการรักษาได้ แต่ถ้าในอนาคตเริ่มเข้มขึ้นก็กลับมารักษาใหม่ได้เพื่อไม่ให้ฝ้ากระจายตัวกว้างและเข้มขึ้น

เมโสหน้าใส
     เป็นโปรแกรมทรีทเม้นทีเน้นในการให้อาหารผิว และการบำรุงผิวแบบทางลัด ปัจจุบันค่อนข้างนิยมมากๆ เพราะบางคนทาครีมบำรุงหลายตัวผิวหน้าก็ยังไม่ดีขึ้น หรือผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร การฉีดจึงเป็นทางลัดในการบำรุงสภาพผิว ให้ผิวแข็งแรง และได้สารอาหารที่ผิวต้องการ

ผลลัพธ์ที่ได้คืออะไรบ้าง?
  1. ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส
  2. ช่วยให้ผิวหน้าแข็งแรง
  3. ช่วยให้สิวลดลง แห้งไว
  4. ช่วยให้ลดเม็ดสีเมลานิลลง ทำให้แลดูขาวกระจ่างใส
  5. ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมสภาพิวที่เสื่อมสภาพให้แข็งแรงขึ้น
  6. ช่วยให้ผิวชั้นกลางเกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
  7. ช่วยปรับความสมดุลให้กับผิวหน้า
  8. ช่วยลดความมัน เพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว
  9. ช่วยให้รูขุขขนกระชับ
ฉีดเมโสหน้าใสอันตรายไหม?
     การฉีดเมโสหน้าใสไม่อร่อย เพราะตัวยาหลักๆแล้วจะประกอบไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ และวิตามินต่างๆที่ผิวต้องการ ไม่ว่าจะเป็นวิตตามินต่างๆที่เน้นช่วยในการฟื้นฟู ซ่อมแซมสภาพผิว และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มีได้ อย และฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์

โปรแกรมหน้าใส 16 จุด
     เรื่องการดูแลผิวหน้าให้ใสทุกวันนี้หนุ่มๆสาวๆนิยมที่จะทำโปรแกรมนี้เยอะมาก และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเลย เนื่องจากการใช้ชีวิตของคนเราในปัจจุบันไม่มีเวลาในการดูแลตัวเอง ทำให้การฉีดบำรุงผิวหน้าด้วยเมโสหน้าใสเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบำรุง และการบำรุงผิวหน้าด้วยการฉีดจะเห็นผลเร็วกว่าการทาครีมบำรุง หรือการทาครีมบำรุงอย่างเดียวอาจจะเห็นผลไม่เต็มที่ หรือทันใจเลยทำให้วิธีการฉีดบำรุงผิวหน้าจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่คนส่วนใหญ่เลือกทำ เพราะการฉีดจะเห็นผลหลังทำ 3-5 วัน และเห็นผลเต็มที่ 10 ถึง 14 วันจะอยู่ได้สองถึงสามเดือนหรือนานกว่านั้นขึ้นอยู่ที่การตอบสนองและการดูแลของแต่ละบุคคล
     การฉีดเมโสหน้าใสไม่ต้องดูแลอะไรมากเลย เพียงแค่ทานอาหารพวกวิตามินเป็นประจำทาครีมบำรุง และครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยป้องกันผิวคล่ำได้ การฉีดเมโสหน้าใสเป็นตัวยาที่ปลอดภัย แต่ต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำในคลินิกที่ได้มาตรฐานจึงจะปลอดภัย

โปรแกรมที่ได้รับความนิยมมีดังต่อไปนี้
Made
Cytocare HA
V2 skin booster 
Dermacare 
XDNA 
Rujuran
Belotero revive  
    ทั้งหมดนี้จะช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวหน้าโดยตรงถ้าถามว่าอันไหนดีที่สุดตามได้เลยว่าดีทุกตัวขึ้นอยู่ที่ความสะดวกของคนไข้เลย หรือให้แพทย์เป็นผู้ประเมินจากสภาพจริงอีกที หน้าใส 16 จุด คุณหมอจะกระจายตัวยาทั่วใบหน้าเลยนะค่ะ ราคาเข็มละ 1,290฿ แนะนำฉีดครั้งละ 2 เข็มขึ้นไปนะค่ะ ตัวนี้ช่วยให้ผิวฟูขึ้น เติมเต็มน้ำให้ผิว ทดแทนน้ำที่เสียไประหว่างวัน และตอนนอน ทำให้หน้าใสขึ้น กระชับรูขุมขน ช่วยจากผิวที่ไม่แข็งแรงให้ผิวแข็งแรงขึ้น สิวแห้งลง สิวเก่ายุบไป สิวใหม่ไม่เกิดขึ้น แก้ไขใบหน้ามัน ลดผดผื่น ลดการระคายเคืองผิว แก้ไขปัญหาผิวติดสารสเตียรอย และสารอันตรายจากเครื่องสำอางค์ ลดรูขุมขนเล็กลง ปรับสมดุลให้ผิวไม่แห้งไป ไม่มันไป ไม่เป็นอันตรายในการฉีด เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดเลยค่ะ แนะนำทำต่อเนื่องกันทุก 1-2 อาทิตย์นะค่ะ 

ฉีดเมโสเจ็บไหม?  
     คุณหมอทุกคนจะใช้เข็มเล็กทที่สุดในการฉีดเข้าที่หน้า ดังนั้นแทบจะไม่เจ็บเลย แต่สำหรับใครที่กังวลเรื่องความเจ็บสามารถแจ้งแปะยาชาได้เลย และก่อนทำจะมีการประคบน้ำแข็งเพื่อให้รู้สึกชาขึ้นอีก ทำให้ตอนหมอจิ้มเข็มเข้าไปดบนหน้าไม่รู้สึกเจ็บเลย หรือถ้าเจ็บก็เจ็บน้อยมาก บางคนบอกประคบน้ำแข็งยังรู้สึกแจ็บกว่าอีก เพราะเย็นมากๆ

ทำแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน?
     ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ 2-3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การดูแลของแต่ละคน และการใช้ชีวิต หรือทำกิจกรรมต่างๆในแต่ละวันของแต่ละบุคคล ดังนั้นถ้าจะออกนอกบ้านจะต้องทาครีมกันแดดให้ถึง และต้องทาเป็นประจำเพื่อป้องกันแสงยูวี รวมถึงทาครีมบำรุงอย่างเป็นประจำ

ฉีดเมโสแล้วหน้าจะแพ้ไหม?
     การแพ้อาจจะเกิดขึ้นได้สำหรับบางคน ซึ่งเป็นปกติของทางการแพทย์ที่สามารถเกิดขึ้นได้ ก่อนทำแพทย์จะมีการซักประวัติก่อนเสมอว่าเคยอะไรบ้าง เพื่อเก็บเป็นประวัติในการพิจารณาในการรักษา แต่ส่วนใหญ่แล้วแพ้น้อยมาก เพราะเมโสแต่ละตัวจะเน้นเรื่องของผิวแพ้ง่ายอยู่แล้ว เน้นการบำรุงผิวหน้าให้แข็งแรง ผิวสุขภาพดี ถ้าผิวคนเราแข็งแรงปัญหาของสิวก็จะลดน้อยลง แต่ไม่ใช่ไม่เกิดสิวเลย ร่างกายคนเราผลิตฮอร์โมนอยู่แล้ว ดังนั้นเป็นปกติของคนเราที่สามารถเกิดสิวใหม่ๆขึ้นได้ แต่ถ้าได้รับการบำรุงเป็นประจำปัญหาพวกนั้นก็จะลดน้อยลง

โปรแกรมรักษาฝ้า กระ รอยดำจากสิว

รอยดำจากสิวเกิดขึ้นได้อย่างไร
     รอยดำจากสิวเกิดขึ้นได้ด้วยฝีมือเราเอง ไม่ว่าจะเป็นกดสิว บีบสิวแรงๆจนทำให้ผิวหนังชั้นนอกเกิดการฟกช้ำ จนทำให้เกิดเม็ดสีที่เข้มขึ้น ส่วนใหญ่แล้วรอยดำจากสิวสามารถหายได้เอง แต่จะใช้เวลานานมากๆ บางใช้เวลา 6-7 เดือนรอยดำยังไม่จางเท่าที่ควรเลย จึงทำให้การรักษารอยดำเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ด้วยวิธีการทำเลเซอร์ จะทำกันทุกๆ 2-3 อาทิตย์ครั้ง จนกว่ารอยดำจะจางเป็นที่น่า่พอใจ สำหรับการรักษาด้วยเลเซอร์จะใชเวลาในการรักษา เนื่องจากโปรแกรมนี้จะใช้พลังงานความร้อนเข้าไปลดเม็ดสีชั้นใต้ผิวหนัง ส่วนการฉีดจะค่อนข้างเห็นผลเร็วกว่า หลังทำไป 5-7 วันก็เริ่มเห็นผลแล้ว การฉีดแพทย์จะนำตัวยาที่ออกฤทธิ์ในการลดเม็ดสีเข้าไปฉีดยังชั้นใต้ผิวหนัง เน้นบริเวณที่เป็นเม็ดสีเท่านั้น ดังนั้นวิธีนี้เป็นการเลือกที่คนส่วนใหญ่นิยมมากๆ เพราะเห็นผลเร็ว และใช้เวลาทำไม่นาน การรักษาจะทำกันทุกๆ 1-2 อาทิตย์ครั้ง จะทำกี่ครั้งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินจากปัญหาผิวหน้าจริงอีกทีนะค้า  

ฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร
     การเกิดขึ้นของฝ้า กระ ปัจจัยหลักๆเลยคือแสงยูวี ซึ่งแสงยูวีที่ทำลายผิวหนังคนเราได้คือ แสงยูวีเอ และยูวีบี แสงที่ทำให้เกิดฝ้าได้รวดเร็วคือแสงยูวีบีเพราะมีคลื่นที่ยาวกว่า การทำลายผิวหนังก็จะมีระยะเวลาที่ยาวกว่า และยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า กระ ได้ เช่น การทานอาหารเสริมบางชนิด ยาคุมกำเนิด การใช้เครื่องสำอาง พันธุกรรม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ
ฝ้า กระ คือความผิดปกติของผิวหนัง เมื่อผิวหนังคนเราเกิดการทำร้ายด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น การไม่ทาครีมกันแดดป้องกัน การทานอาหารเสริมบางชนิด การทานยาคุมกำเนิด รวมถึงพันธุกรรมด้วย พอผิวหนังโดยทำร้ายมากๆก็จะถูกสร้างเม็ดมีเมลานินขึ้นมาทำให้ผิวหน้าชั้นนอกแสดงผลคือฝ้า และกระ ส่วนมากการเกิดฝ้า กระ จะเกิดจากแสงยูวี
ลักษณะของฝ้าคือ คือจะเป็นฝืนเล็กๆ หรือเป็นแผ่นเล็กจะเห็นได้ชัดในบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก คาง ในร่มผ้าก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นบริเวรหลัง แขน หน้าอก
ฝ้าแบ่งออกมา 2 ประเภท
  1. ฝ้าตื้น สำหรับฝ้าตื้อจะเห็นผิวหนังของเรามีแผ่นสีน้ำบางๆ ต้องจ้องมองดีๆถึงจะเห็นว่าผิวหนังเรามีความผิดปกติของผิวหนังชั้นบน
  2. ฝ้าลึก  สำหรับฝ้าลึกจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าผิวหนังชองเรามีความผิดปกติ มองเห็นเลยว่ามีแผ่นเล็กๆ หรือฟื้นเล็กๆสีน้ำตาลเข้มอยู่บนใบหน้าของเรา อยู่ในชั้นบริเวรผิวหนังชั้นบนเช่นกัน
กระแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
  1. กระตื้น สำหรับกระตื้อจะเห็นผิวหนังของเรามีจุดเม็ดสีน้ำตาลน้ำบางๆ เล็กๆ ต้องจ้องมองดีๆถึงจะเห็นว่าผิวหนังเรามีความผิดปกติของผิวหนังชั้นบน
  2. กระลึก  สำหรับกระลึกจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าผิวหนังชองเรามีความผิดปกติ มองเห็นเลยว่ามีจุดเล็กๆ จะเล็กว่าฝ้าสีน้ำตาลเข้มอยู่บนใบหน้าของเรา อยู่ในชั้นบริเวรผิวหนังชั้นบนเช่นกัน
 
ฝ้า กระ เป็นอันตรายไหม?
     คำตอบคือ ไม่เป็นอันตรายใดๆเลย แต่อาจจะส่องกระจกแล้วผิวเปลี่ยนไป ไม่กระจ่างใส หรือเนียนเหมือนของคนปกติเลย ทำให้เกิดความรำคาญใจ และยิ่งคนไทยเองไม่ค่อยชอบการเป็นฝ้า เพราะทำให้ใบหน้าดูมีอายุ หลายๆคนคิดว่าการเกิดฝ้าคือแก่แล้วจะเป็นฝ้า แต่จริงๆแล้วการเกิดฝ้าสามารถเกิดได้ทั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไปเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การป้องกันและการดูแลผิวหนังของแต่ละคนด้วย ยิ่งไปกว่านั้นการเกิดฝ้า กระ จะเกิดมากที่สุดในเพศหญิง

การรักษาที่นิยม
     ปัจจุบันการรักษาฝ้า กระ ที่ได้รับความนิยมกันมากๆคือการทำเลเซอร์ และการฉีดตัวยาลดเม็ดสี ทั้งสองโปรแกรมจะเน้นเรื่องการของยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิล โดยการรักษาด้วยเลเซอร์จะใช้พลังงานความร้อนเข้าไปยับยั้งการสร้างเม็ดสี เห็นผลเร็ว หลังทำไป 2-3 อาทิตย์ก็เริ่มเห็นผล และต้องทำต่อเนื่อง ตามคำแนะนำจากแพทย์ผิวหนัง ส่วนการรักษาด้วยการฉีดลดเม็ดสี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากๆ การรักษาด้วยวิธีนี้ถือว่าเป็นทางลัดในการรักษาเลย เพราะแพทย์จะนำตัวยาฉีดลงไปยังชั้นใต้ผิวหนังที่ผิดปกติเลย เพื่อให้ตัวยาเข้าไปลดการทำงานของเม็ดสีลงอย่างรวดเร็ว การออกฤทธิ์ก็เร็ว หลังทำไป 5-7 วันก็เริ่มเห็นผลแล้ว ตัวยาจะทำงานเต็มที่ในการลดเม็ดสี 2 อาทิตย์ ดังนั้นอย่าให้เกิน 2 อาทิตย์แล้วมาฉีดซ้ำ เพื่อให้ตัวยาเข้าไปเล็ดเม็ดสีอย่างต่อเนื่อง

การรักษาฝ้า กระ หายถาวรไหม?
     คำตอบคือ ไม่ถาวร แต่จะทำให้เม็ดสีเมลานิลจากลงจนแทบมองไม่ค่อยออกมานั้นคือฝ้า กระ รักษาลดฝ้า กระ ควรทำอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลง หรือพึงพอใจแล้วว่าเม็ดสีจางลง พอเม็ดสีจางลงแล้วสามารถหยุดฉีดได้เลย และไปเน้นเรื่องการดูแลผิวให้ดี เช่น การทาครีมบำรุง และครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดแรงๆโดยไม่มีอะไรป้องกันเลย เช่น ไม่ทาครีมกันแดดเลย ดังนั้นครีมกันแดดสำคัญมาก ควรทาครีมกันแดดค่า SPF 50 ขึ้นไป อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ปัจจุบันมีนวัตกรรมใหม่เยอะมาก กันแดดก็มีแบบสเปรย์แล้วสามารถพ่นทับเมคอัพได้เลย หาซื้อได้ตามร้านชั้นนำทั่วไป หรือออนไลน์
 

 

เกร็ดน่ารู้


คอลลาเจนคืออะไร

คอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบมากๆในอวัยวะของคนเราบริเวฯเนื้อเยื้อที่เกี่...

อ่านต่อ

วิธีดูฟิลเลอร์ของแท้

มาทำความรุ้จักฟิลเลอร์กัน ฟิลเลอร์คือสาร Hyaluronic acid หรือ HA Fil...

อ่านต่อ

โปรแกรมหน้าใส 16 จุด ช่วย...

โปรแกรมหน้าใส เป็นโปรแกรมทรีทเม้นทีเน้นในการให้อาหารผิว และการบำรุงผ...

อ่านต่อ

คำถามยอดฮิต


อาการแพ้โบ

สามารถเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นได้นะค่ะ แต่ก็พบเจอคนที่แพ้โบได้น้อยมากๆ อาการแพ...

อ่านต่อ

ข้อห้ามในการฉีดโบท็อกซ์

คนที่มีปัญหาแพ้โบท็อกซ์หรือโปรตีนอัลบูมิน ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรอยู่ มีควา...

อ่านต่อ

รักษาฝ้าที่ไหนดี

ฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร การเกิดขึ้นของฝ้า กระ ปัจจัยหลักๆเลยคือแสงยูวี ...

อ่านต่อ