Sculptra

Sculptra

Sculptra

     คือตัวยาที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจลใหม่ให้กับผิวหน้า เป็นสารที่มีชื่อว่า PLLA (Poly-L-Lactic acid) มีคุณสมบัติที่ชัดเจนในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่เลย ฟื้อฟูสภาพผิวหน้าที่เสื่อมสภาพ ทรุดโทรมลง ซึ่งเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นสภาพผิวจากภายในเสื่อมสภาพลง การผลิตคอลลาเจนชั้นผิวหนังลดลง ทำให้แสดงผลออกมาถึงภายนอกให้เห็นปัญญาที่เสื่อมต่างๆ ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมา และยังเป็นตัวยาตัวแรกของโลกที่มีงานวิจัยหลายฉบับในการรองรับเรื่องของผลลัพธ์ ดังนั้นถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย

การทำงาน Sculptra

     หลังจากแพทย์ฉีด Sculptra เข้าไปยังชั้นใต้ผิวหนังแล้ว ตัวยาจะออกฤทธิ์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่เลย ดังนั้นหลังทำไป 2-3 วันก็จะเริ่มเห็นผลแล้ว เพราะตัวยาจะทำการสร้างคอลลาเจลผ่านระบบภูมิคุ้มกันและส่งสัญญาณไปที่ชั้นเซลล์และเซลล์ก็ไปกระชิบบอกผ่านเส้นใยคอลลาเจน เพื่อให้เกิดการทำงานการสร้างคอลลาเจนอย่างรวดเร็ว สำหรับงานวิจัยของ Sculptra ชี้ให้เห็นแล้วว่ามีการผลิตการสร้างคอลลาเจลได้ถึง 66% จะสังเหตุเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผิวหน้าที่ฉีด Sculptra เข้าไปผิวจะกระชับ อิ่ม ฟูสวย ผิวหนังแลดูแข็งแรงมากขึ้น หลังทำไป 2-3 วันเริ่มเห็นผล และจะเห็นผลเต็มที่ 3 เดือน หลังทำไปแล้วสามารถอยู่ได้ถึง 25 เดือน สำหรับ Sculptra นอกจากจะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวแล้ว ยังช่วยฟื้นฟูเรื่องของริ้วรอย และผิวหน้ากระชับด้วย

คอลลาเจนคืออะไร?

     คือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่พบมากๆในอวัยวะของคนเราบริเวฯเนื้อเยื้อที่เกี่ยวพัน เช่น เส้นเอ็น หลอดเลือด และผิวหนัง สำหรับผิวหนังแล้วคอลลาเจนจะมีปริมาณมากที่สุดถึงร้อยละ 75 เปอร์เซ็น และคอลลาเจนทำหหน้าที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และเพิ่มความแข็งแรงขออวัยวะต่างๆของร่างกาย ทำให้ผิวหนังของคนเราดูเต่งตึง กระชับ ผิวแน่น เรียบเนียบ แต่เมื่ออายุ 30 ปี ขึ้นไป คอลลาเจนทั้งหลายก็จะผลิตได้น้อยลง เมื่อคอลลาเจนผลิตน้อยลงส่งผลทำให้ผิวหนังจะเห็นผลอย่างชัดเจนเลยของความเสื่อมสภาพ เช่น ความหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ผิวไม่เต่งตึง ผิวไม่เรียบเนีนยเหมือนก่อน 
    ในร่างกายคนเรามีคอลลาเจนทั้งหมด 6 ประเภท และคอลลาเจนเป็นเส้นใยโปรตีนประเภทหนึ่งของร่างกายคิดเป็นปริมาณ 6 เปอร์เซ็นของน้ำหนักตัว คิดเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกายคนเรา คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างผิว กระดูกอ่อน และหลอดเลือด ปัจจุบันนี้คอลลาเจนมีการค้นพบได้มากถึง 18 ชนิด แต่มีคอลลาเจนที่พบมากที่สุด 5 ชนิด
 

อ้างอิงรูปภาพจาก Interphama

คอลลาเจนทั้งหมด 5 ชนิด 

คอลลาเจนประเภท 1 (type I)
     ซึ่งพบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย ช่วยในการสร้างกระดูก ผนังหลอดเลือด เอ็นและเอ็นยึดกล้ามเนื้อ ผิวหนัง กระจกตา และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน มีความเหนียวและแข็งแรงมากที่สุด มีความสำคัญในเรื่องของเพิ่มความยืดหยุ่น ป้องกันเนื้อเยื้อไม่ให้ฉีกขาด และช่วยสมานแผลบนผิวหนังได้ดี ด้วยเหตุนี้ผิวของผู้ที่มีคอลลาเจนอย่างเพียงพอจึงสวย เนียน ไร้ริ้วรอยนั่นเอง
คอลลาเจนประเภทที่ 2 (type II)
     พบมากในกระดูกอ่อน เช่น ส่วนประกอบของหู จมูก หลอดลม และกระดูกซี่โครง ทำหน้าที่แตกต่างจากคอลลาเจน type I อย่างสิ้นเชิง โดยจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์ของเซลล์ให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อการลดอัตราการเสื่อมของกระดูกอ่อนบริเวณข้อต่อ ซึ่ง คอลลาเจนชนิดที่ 2 เป็นคอลลาเจน ที่พบได้ในกระดูกอ่อนและหมอนรองกระดูกสันหลัง ซึ่งทำหน้าที่รองรับน้ำหนักและให้ความแข็งแรงแก่ข้อต่อในขณะที่มีการเคลื่อนไหว โดยปกติแล้วในกระดูกอ่อนจะประกอบด้วยโครงข่ายของเส้นใยคอลลาเจนไทพ์ทู รวมตัวกับกรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid) และโปรตีโอไกลแคน (Proteoglycan) ได้แก่ แอกกริแคน (Aggrecan) ซึ่งมีไกลโคอะมิโนไกลแคน (Glycoaminoglycans) คือคอนโดอิติน ซัลเฟต (Chondroitin Sulfate) และเคอราแทน ซัลเฟต (Keratan Sulfate) เป็นส่วนประกอบ การศึกษาพบว่าในผู้ที่น้ำหนักตัวมาก และผู้สูงอายุ กระดูกอ่อนชนิด Articular Cartilages ซึ่งมีความทนต่อแรงกระแทกจะเริ่มเสื่อมลงโดยเฉพาะที่ข้อต่อที่รับน้ำหนัก เช่นข้อเข่าและสะโพก จึงมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับภาวะการเกิดข้อเสื่อม ข้ออักเสบ (Osteoarthritis)
     
คอลลาเจนประเภทที่ 3 (type III)
     มักพบร่วมกับประเภทที่ 1 คือพบในผิว กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันในร่างกาย สามารถพบร่วมกับคอลลาเจนชนิดที่ 1 แต่พบได้น้อยกว่าประมาณ 10% โดยส่วนใหญ่มักพบในผนังหลอดเลือด แต่พบได้น้อยในข้อต่อต่าง ๆ ซึ่งแตกต่างจากคอลลาเจนชนิดที่ 2
คอลลาเจนประเภทที่ 4 (type IV)
     พบใน basal lamina และ basement membrane ในส่วนของ epithelium-secreted layer เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัว พบมากบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมันนอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือดอีกด้วย
คอลลาเจนประเภทที่ 5 (type V)
     เป็นคอลลาเจนที่เป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ พบในผิวของเซลล์ และเส้นผม

อายุกับการเสื่อมของคอลลาเจน

มื่ออายุ 30-39 ปี ผิวจะเริ่มมีรอยย่นบางๆ ทอดยาวบริเวณหน้าผากมีริ้วรอยเล็กๆ ใต้ขอบตาล่างและหางตาจะเห็นชัดเวลายิ้มและมีรอยย่นตรงระหว่างคิ้ว ซึ่งจะเห็นชัดเวลาหน้านิ่ว มีริ้วรอยบางๆที่ร่องแก้มจากจมูกจนถึงเหนือริมฝีปากอาจเกิดไฝ กระ ฝ้าทั้งแบบลึกและตื้น ขนาดของรูขุมขนจะเห็นชัดขึ้น
อายุ 40-49 ปี รอยย่นบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ใต้ขอบตาล่างและหางตา เห็นชัดเจนมากขึ้น รอยย่นข้างแก้มและร่องแก้มลึกทอดยาวไปจนจดมุมปาก มีฝ้าชนิดลึกมากขึ้นสภาพผิวเริ่มแห้งมีรูขุมขนใหญ่ และเริ่มจะเป็นสิวอีกครั้ง มีติ่งเนื้อขึ้นกระจัดกระจายเป็นตุ่มเล็กๆ สีน้ำตาลภาวะนี้เรียกว่าวัยเริ่มตกกระ
อายุ 50-64 ปี ผิวจะมีสภาพเหมือนกับวัย 40-49 ปี แต่จะมีรอยย่นตามร่องแก้มลึกทอดยาวไปจนถึงบริเวณใต้มุมปากมีฝ้าเกิดขึ้นและติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะคอลลาเจนจะเริ่มเสื่อมลงอย่างมาก
อายุ 65 ปี ขึ้นไป ผิวหนังหยาบกร้าน มีริ้วรอยทั่วหน้าริมฝีปากบ้างมีรอยย่นเหนือริมฝีปากส่วนการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ คล้ายกับวัย 50-64 ปี ดังนั้น จึงถือว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติที่ต้องเกิดขึ้นกับทุกคนโดยที่เราไม่สามารถหยุดยั้งได้แต่เราสามารถช่วยชะลอความเสื่อมของผิวพรรณและรักษาผิวไว้ให้ดูดีให้นานที่สุดได้เช่นเดียวกันโดยการใช้สารสกัดโปรตีนคอลลาเจนเพื่อทดแทนคอลลาเจนที่สูญเสียไป
อ้างอิงข้อมูลจาก: แผนผิวหนังโรงพยาบาลรามาธิบดี

ปัญหาใดเหมาะกับการทำ Scultra 

1. คนที่มีปัญหาริ้วรอย และร้องลึกบนใบหน้า 
2. คนที่มีปัญหาผิวหน้าไม่แข็งแรง แพ้ง่าย ผิวหน้าโทรม และต้องการให้ผิวหน้าสุขภาพดี
3. คนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลผิวหน้า หรือไม่อยากฉีดบ่อยๆ
4. คนที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้าย อยากให้ใบหน้ากระชับ 

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีด Scultra 

1. งดการแต่งหน้า และงดทาครีมบำรุง 24 ชม หรือจนกว่าอาการบวมแดงจะหาย
2. งดซาวหน้า อบไอน้ำ 24 ชม หรือจนกว่าอาการบวมแดงจะหาย
3. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดๆ 
4. ทายาทราบที่แพทย์จ่ายให้จนครบ 
5. สำคัญมากสำหรับขั้นตอนหลังทำ Scultra จะต้องนวดหน้าเพื่อกระจายตัวยา ครั้งละ 5 นาที และควรทำ 5 ครั้งอย่างเคร่งครัดตามที่แพทย์สอนไป

วิธีการนวดหน้าหลังฉีด Sculptra


อ้างอิงข้อมูลจากบริษัท Galderma

ทำ Scultra อันตรายไหม?

คำตอบ สำหรับตัวยาตัวนี้มีงานวิจัยรับรองถึงคุณสมบัติที่เห็นผลชัดเจนเยอะมากๆ ทั้งคณะแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ โดยในรายละเอียดจะเน้นเรื่องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่สะกัดจากพืช ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรอาหารและยาของสหรับอเมริกา (US.FDA) ดังนั้นปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย

ทำไปแล้วกี่วันถึงจะเห็นผล?

คำตอบคือ จะเริ่มเห็นผลที่ 3 อาทิตย์หลัง และจะเห็นผลเต็มที่ 3 เดือน ทำแล้วจะอยู่ได้ประมาณ 2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่การตอบสนองตัวยา และการดูแลของแต่ละบุคคลด้วย 

ควรทำกี่ครั้งดีถึงจะเห็นผลชัดเจน?

คำตอบคือ ในช่วงแรกแนะนำครั้งละ 1 ขวด ติดต่อกันทุกเดือน เป็นเวลา 3 ครั้ง จะทำให้อยู่ได้นานเลย จะทำให้อยู่ได้นาน 2 ปีเลย แต่สำหรับบางท่านที่ไม่ทำติดต่อกัน 3 ครั้งแบบนี้ ทำแค่ 1 ครั้ง ก็จะทำให้ตัวยาอยู่ได้ไม่นานโดยประมาณ 5-6 เดือน 

วิธิดูยาแท้กัน

1. จะมีQR-Code ให้สแกน โดยจะต้องสแกนผ่าน eZtracker
2. กล่องยาจะมีสติ๊กเกอร์โมโนแกรม
3. ในกล่องจะมีเอกสารรายละเอียดของยาทั้งไทย และอังกฤษ
4. ตัวยาจะมาในรูปแบบผงเหมือนโบท็อกซ์เลย ไม่ได้มาเป็นน้ำ หรือของเหลว
5. สังเกตุที่ตัว S ของกล่องยาจะมีรอยนูนขึ้นมาให้เห็นชัด

ผลลัพธ์ที่ได้

1. ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ ตื้นๆให้กระชับขึ้น
2. ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวชั้นลึก จากภายในสู่ภายนอก
3. ช่วยฟื้นฟุสภาพผิวที่หมองคล้ำกลับมาสดใส
4. ช่วยให้ผิวหน้ากระชับ เรียบเนียน
5. ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจลใหม่
6. รูขุมขนกระชับ ผิวหน้าสุขภาพดี

ขั้นตอนการทำโปรแกรม Sculptra

     ต้องปรึกษาคุณหมอเพื่อประเมินจากสภาพปัญหาของผิว และรับข้อมูลต่างๆอย่างละเอียด หลังจากปรึกษาเสร็จทำการแปะยาชา 30-45 นาที คุณหมอจะเริ่มทำหัตถการต่างๆบนใบหน้า ใช้เวลาทำประมาณ 30 นาที หลังฉีดเสร็จจะมีการทายา และอาจจะจ่ายยาทานตามที่คุณหมอเห็นสมควร

ข้อควรระวังหลังฉีด Sculptra

1. เลเซอร์ 2 สัปดาห์
2. งดแต่งหน้า ทาครีม ซาวหน้า สตรีมไอน้ำภายใน 24 ชม
3. หลักเลี่ยงแสงแดดแรงๆเป็นเวลา 2 อาทิตย์ หรือสังเกตอาการแดงจากเข็มอีกที
4. งดทำหัตถการทุกอย่างบนใบหน้าเป็นเวลา 1 เดือน
5. มาติดตามผลตามที่แพทย์นัดหมายไว้

ใครไม่เหมาะกับการทำ Sculptra

1. คนที่ตั้งครรภ์
2. คนที่ให้นมบุตรอยู่
3. คนที่เป็นโรคประจำตัวภูมิคุ้มกันบกพร่อง SLE
4. คนที่ทานยากดภูมิคุ้มกัน
5. มีประวัติแพ้ยาอย่างรุนแรง

ราคาโปรโมชั่น

1 ครั้ง 25,900.- (ปกติ 35,900.-)
2 ครั้ง 45,800.- เฉลี่ยครั้งละ 22,900.- (ปกติ 71,800.-)
3 ครั้ง 60,000.- เฉลี่ยครั้งละ 20,000.- (ปกติ 107,700.-)
สามารถผ่อน 0% 3-6 เดือน กรุงศรี กสิกร ไทยพาณิช

เกร็ดน่ารู้


รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ

โปรแกรมรักษาฝ้า ปัจจุบันคนไทยเป็นฝ้า กระ และจุดด่างดำค่อนข้างเยอะ เนื...

อ่านต่อ

5 วิธีการปรับรูปหน้าที่ได...

1.โปรแกรมโบท็อกซ์ การปรับรูปหน้าด้วยโปรแกรมนี้ได้รับความนิยมมากๆและต่อ...

อ่านต่อ

สเต็มเซล์ล คืออะไร

คือ เซล์ลต้นกำเนิด หรือ สเต็มเซล์ลชนิดพิเศษที่พบได้ในสิ่งมีชีวิต สำหรับ Ste...

อ่านต่อ

คำถามยอดฮิต


อาการแพ้โบ

สามารถเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นได้นะค่ะ แต่ก็พบเจอคนที่แพ้โบได้น้อยมากๆ อาการแพ...

อ่านต่อ

ข้อห้ามในการฉีดโบท็อกซ์

คนที่มีปัญหาแพ้โบท็อกซ์หรือโปรตีนอัลบูมิน ตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตรอยู่ มีควา...

อ่านต่อ

รักษาฝ้าที่ไหนดี

ฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร การเกิดขึ้นของฝ้า กระ ปัจจัยหลักๆเลยคือแสงยูวี...

อ่านต่อ